---- 9 ขั้นตอนเลือกสีผมที่เหมาะกับตัวเรา ----



9 ขั้นตอนเลือกสีผมที่เหมาะกับตัวเรา - ทรงผม - เคล็ดลับ - ไอเดีย - ความงาม

1.  ดูสีผิว – สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะว่ามองเห็นได้ชัดเป็นอันดับแรก ระวังให้ดี เพราะว่าอะไรรู้มั้ย? สีผมของแต่ละคนมีผลต่อการสีผิวแตกต่างกันไป อย่างเช่น สำหรับสาวผิวเข้ม ผมสีแดงจะทำให้ดูหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวา แล้วยังทำให้ดูคล้ำขึ้นอีกด้วย ผมสีดำก็เช่นเดียวกัน ส่วนผมสีบลอนด์อ่อนสีผิวก็จะดูไม่เปลี่ยนแปลงนัก สีที่เหมาะควรจะเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ การเลือกสีผมให้เหมาะกับสีผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าไม่อยากทดลองด้วยตัวเอง ลองดูดาราหรือเซเลบที่สีผิวใกล้เคียงเป็นตัวอย่างก็ได้นะ

 

2.  ดูบุคลิก – เชื่อหรือเปล่าว่า สีผมมีส่วนช่วยสร้างบุคลิกภาพได้ด้วยนะ อย่างเช่น สาวมั่นๆ แรงๆ ลองเป็นผมโทนสีเข้มอย่างดำ น้ำตาลดำ ไปจนถึงแดง จะทำให้ดูเหมาะกับบุคลิกได้ดี ถ้าหากเป็นผมสีบลอนด์อ่อน ก็อาจจะดูไม่เข้ากับบุคลิกนัก แต่สำหรับสาวเรียบรร้อย เงียบ ขี้อาย ไม่อยากเป็นจุดสนใจ ลองสีผมน้ำตาลธรรมชาติ อาจเพิ่มไฮไลท์สีบลอนด์ก็ได้ สีน้ำตาลดำ หรือสีบลอนด์ทอง ก็น่าจะเวิร์คไม่น้อย สาวคนไหนที่อยากเปลี่ยนลุคก็ลองเทคนิคเหล่านี้ดู

 

3.  การแต่งหน้า – ถ้าชอบแต่งหน้าแบบปัดแก้มด้วยโทนสีพีช ทาปากด้วยโทนสีชมพู ทาตาด้วยโทนสีหวานๆ ไม่แนะนำให้ทำผมสีแดง เพราะมันจะขัดแย้งกันสุดๆ ลองหันมาแต่งโทนสีอย่างดำ น้ำตาล เทา และเงิน หลีกเลี่ยงสีแดง ซึ่งดูภาพรวมแล้วจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่บกพร่องได้ โดยจะต้องไม่ใช้โทนสีที่ตัดกันเกินไประหว่างการแต่งหน้ากับสีผม แต่ในบางกรณีก็อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป ลอง mix & match แล้วศึกษาไปเรื่อยๆ ด้วยตนเอง จะได้รู้ว่าอะไรเหมาะ และอะไรไม่เหมาะ

 

4.  บำรุงสม่ำเสมอ – ขั้นตอนสำคัญที่สุด ก่อนจะจัดการเปลี่ยนสีผม นั่นก็คือ การบำรุง ซึ่งจำเป็นมากๆ ยิ่งถ้าเป็นสีที่แตกต่างจากสีผมธรรมชาติมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องการการบำรุงมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าอยากข้ามขั้นตอนไปทำสีผมเลย แบบว่าไม่มีเวลาเท่าไร แนะนำให้ทำสีแต่ไม่แตกต่างจากสีผมธรรมชาติมากนักจะดีกว่า

 

5.  เช็คทรงผม – ถ้าสาวคนไหนผมแห้งกรอบมาก ไม่ไหวจริงๆ ไม่ว่าจะเพราะแสงแดดร้อนๆ ว่ายน้ำบ่อยๆ หรือผ่านการทำสีมามาก ก่อนจะทำสีผมควรระวังเป็นพิเศษ การที่ผมแห้งนั่นหมายความว่า ผมจะค่อนข้างมีความบอบบาง ซึ่งจะทำให้การย้อมนั้นติดสีได้เร็ว และสีออกมาชัดเจนกว่าปกติ ถ้าผมแห้งไม่สม่ำเสมอ นี่ค่อนข้างจะเป็นปัญหาสักหน่อย แต่แก้ได้ไม่ยาก โดยก่อนจะทำสีผม ให้บำรุงด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ ทรีทเมนท์ และพักผมไว้อย่างน้อย 3 วัน ก่อนจะเริ่มทำ

 

6.  อย่าสระผมก่อนทำทันที – จะดีมากถ้าเราได้สระผมในตอนเช้าก่อนจะทำสีผม เพราะจะทำให้ผมมีน้ำมันตามธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยง และจะช่วยป้องกันผมขณะที่เราทำสีผมด้วย ย้ำอีกครั้ง ถ้าทำขณะที่ผมกำลังแห้งสนิทนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไร จึงควรรอให้ผมชุ่มชื้นสักนิดนึงนะ

 

7.  มองหาทรีทเมนท์ – อยากจะแนะนำสาวๆ ให้บำรุงผมด้วยทรีทเมนท์ก่อนทำสีผมประมาณ 3 วัน อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันผมไม่ให้แห้งเสีย รวมถึงส่งผลให้การทำสีผมออกมาดีที่สุด แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้สีผิดเพี้ยนไปจากที่ต้องการได้อีกด้วย

 

8.  ลองก่อนทำ – รู้หรือเปล่าว่า เดี๋ยวนี้มีเว็บไซต์ที่ช่วยให้เราได้ลองทำสีผมในแบบที่เราอยากลองได้โดยที่ไม่ต้องทำจริงๆ ด้วย? ไม่รู้ล่ะสิ จะบอกให้ก็ได้ว่าเว็บไซต์เหล่านี้จะทำให้เราได้ลองกันเต็มที่ จะลองทำกี่สีก็ได้ โดยเราจะได้รู้ว่าการทำสีผมแต่ละสีของเราจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถลองทำดูได้ที่เว็บไซต์ makeovr.com หรือ thehairstyler.com

 

9.  ดูอารมณ์ตัวเอง – ทะเลาะกับแฟนอยู่หรือเปล่า? อกหักแต่ไม่อยากเศร้า? แล้วทำไมต้องทำสีผมเอาตอนนี้ล่ะเนี่ย? รู้นะว่าสาวๆ ทั้งหลายอาจจะเป็นอย่างนี้ แต่บอกไว้เลยว่าระวังให้ดี อาจจะต้องเสียใจเมื่อทำสีผมขณะที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ เพราะบางครั้ง เมื่อเราแปรปรวน เราก็อาจจะอยากทำอะไรบ้าๆ หลุดโลกขึ้นมา จึงขอบอกชัดๆ ไว้เลยว่า ทำสีผมให้ขณะที่อารมณ์คงที่เถอะนะ คิดให้ดีก่อนที่จะทำสีผม เพราะมันอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อีกครั้ง แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไงฉันก็จะเปลี่ยนให้ได้! ทาเล็บสีใหม่ๆ แทนก็พอ หรือจะซื้อลิปกลอส ลิปสติกสีใหม่ หรือลองเปลี่ยนแชมพู เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ถ้ามันไม่เกินงบที่มีอยู่นักมันก็ไม่ผิดหรอกน้า