เลือกชุดแต่งงานอย่างไรดี ?
สิ่งแรกที่เจ้าสาวเป็นกังวลเมื่อมาถึงเรื่องของการเลื่อกชุดแต่งงานคือ เราจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับหุ่นของเรา ชุดที่ใส่แล้วทำให้เราดูสวยที่สุด และชุดที่่ใส่แล้วสามารถปิดบังจุดบกพร่องของร่างกายได้ทำให้เราเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในวันแต่งงาน
..ก่อนอื่น อยากเจ้าสาวเข้าใจอย่างหนึ่งคือ สิ่งที่เจ้าสาวที่ต้องตัดสินใจเป็นอันดับแรกเมื่อเดินเข้าร้านชุดเจ้าสาว หรือ Wedding Studio ไม่ใช่ว่าคุณชอบโบว์ด้านหลังรึเปล่า หรือคุณอยากได้ชุดที่ประดับคริสตัลหรือไม่ แต่มันคือ ชุดแต่งงานทรงนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ (ความยากของมันคือ คุณต้องมองข้ามความระยิบระยับและรัศมีภายนอกของชุดนั้นๆ แล้วมองลึกลงไปถึงทรงของมัน เลือกมันให้ได้แล้วคุณถึงจะสามารถถอยกลับออกมาชื่นชมกับความระยิบระยับภายนอกได้) ....ถ้าคุณพร้อมจะแล้ว เราไปลุยกันต่อเลยค่ะ ....

ทรงชุดแต่งงานคืออะไร ?
ทรงของชุดเจ้าสาว คือรูปร่างที่เป็นกรอบภายนอกของชุดนั้นๆ เป็นโชคของเจ้าสาวอย่างหนึ่ง เพราะถึงแม้ว่าชุดเจ้าสาวจะมีเป็นพันๆ หมื่นๆ แบบ แต่ทุกชุดเกิดจากทรงพื้นฐานอยู่ไม่กี่แบบเท่านั้น  ในการเลือกชุดแต่งงาน เจ้าสาวจึงควรที่จะได้รู้จักทรงพื้นฐานเหล่านี้ เพราะการใส่ชุดแต่งงานให้สวย เจ้าสาวจะต้องเลือกทรงให้เหมาะกับรูปร่างของตัวเอง ถึงแม้ว่าบางคนอาจจจะมีดีไซเนอร์เลือกชุดให้ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ขวัญเห็นด้วยเป็นที่สุด) แต่การที่เราได้เรียนรู้พื้นฐานเรื่องทรงบ้าง จะทำให้เราสื่อสารกับดีไซเนอร์หรือร้านชุดได้ง่ายยิ่งขึ้น

สำหรับเจ้าสาวที่เลือกชุดแต่งงานเอง ก็ยิ่งควรที่จะทำความเข้าใจกับเรื่องของทรง เพราะจะทำให้คุณลองชุดได้อย่างที่ต้องการ ไม่เสียเวลา และได้ชุดที่ใส่แล้วสวยที่สุด  เพราะว่าชุดมีเป็นพันๆ แบบ คุณจะได้เสียเวลาไปกับชุดที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคู่กับคุณน้อยที่สุด ... สังเกตุดูนะคะว่าขวัญบอกว่า เสียเวลาให้น้อยที่สุด ไม่ใช่จะไม่เสียเวลาเลย เพราะขวัญยังสนับสนุนให้เจ้าสาวเปิดโอกาสให้ตัวเองลองชุดแต่งงานที่ชอบทุกทรง ถึงแม้คุณจะเรียนรู้แล้วว่า ทรงนั้นๆ อาจจะไม่เหมาะกับตัวเอง แต่ขวัญแนะนำว่า ให้เลือกลองทรงนั้นๆ เป็นอันดับแรก และเลือกลองแค่ทรงละ 1 ชุด ถ้าคุณคิดว่าไม่ใช่ก็ให้ปล่อยผ่านเลย อย่าเสียเวลากับมันค่ะ การลองชุดแต่งงานเป็นงานที่ใช้พลังงานมาก ทั้งเจ้าสาวเองและพนักงานที่ช่วยลองชุด คุณควรเซฟพลังงานของคุณและผู้ช่วยคุณไปเลือกชุดแต่งงานที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดดีกว่า

โดยทั่วๆไปแล้ว ทรงที่เป็นพื้นฐานของชุดแต่งงานจะมีด้วยกัน 5 แบบ ดังนี้ค่ะ

1.ชุดแต่งงานทรงเอไลน์ (A-line/Princess)
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทรงนี้เป็นรูปตัวอักษรตัว A ในภาษาอังกฤษ ชุดแต่งงานทรงเอไลน์นี้เป็นทรงที่เจ้าสาวใส่กันมากที่สุด เพราะเป็นทรงที่ใส่กับหุ่นของผู้หญิงได้ทุกรูปร่าง  แถมก็ยังมีการดัดแปลงรูปทรงออกมาอีกหลายแบบ หนึ่งในแบบนั้นก็เรียกว่าทรงเจ้าหญิงหรือพริ้นเซส  ชุดแต่งงานทรงแบบเอไลน์ด้านบนจะเข้ารูปและค่อยๆ บานออกตั้งแต่เอวหรือสะโพกลงไปในลักษณะของตัวเอ โดยไม่มีส่วนที่หักเว้าใต้สะโพก
เลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง - แฟชั่นแต่งงาน - สไตล์การแต่งตัว - Wedding Dresses - ชุดเจ้าสาว - ชุดแต่งงาน - แบบชุดเจ้าสาว - งานแต่งงาน
หุ่นเจ้าสาวที่เหมาะกับชุดเจ้าสาวทรงนี้ ชุดแต่งงานทรงเอไลน์สามารถปรับให้กับเข้ากับหุ่นของผู้หญิงทุกแบบ ถ้าเป็นไอไลน์แบบกระโปรงยาวก็สามารถที่จะซ่อนท่อนล่างของเจ้าสาวบางคนที่ไม่มั่นใจต้นขาของตัวเอง หรือไม่ก็สามารถเพิ่มส่วนเว้าส่วนโค้งให้เจ้าสาวตัวเล็กๆ ได้ นอกจากนั้นยังสามารถปรับเปลี่ยนบริเวณคอ เอว หรือการประดับอื่นๆ เพื่อสามารถที่จะเน้นส่วนที่คุณชอบ และซ่อนจุดที่คุณไม่ชอบได้

ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ (Ball Gown)
ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์มีความคล้ายกับทรงเอไลน์ แตกต่างที่ว่าทรงกระโปรงจะใหญ่และฟูมากกว่า ดังนั้นบางคนก็เรียกว่าชุดแต่งงานทรงสุ่ม ถ้าจะนึกภาพทรงนี้ง่ายๆ ก็คือชุดเจ้าสาวของซินเดอเรลล่านั่นเอง ตอนที่คุณเป็นเด็ก คุณก็คงจะนึกภาพชุดแต่งงานแบบนี้เป็นอย่างแรก ความเด่นอีกอย่างหนึ่งของทรงนี้ ก็คือเป็นชุดที่โชว์ความคอดของเอวเพราะว่าจะรัดรูปมากตรงช่วงบริเวณช่วงเอว
เลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง - แฟชั่นแต่งงาน - สไตล์การแต่งตัว - Wedding Dresses - ชุดเจ้าสาว - ชุดแต่งงาน - แบบชุดเจ้าสาว - งานแต่งงาน
หุ่นเจ้าสาวที่เหมาะกับชุดเจ้าสาวทรงนี้ ทรงแบบนี้เหมาะกับเจ้าสาวที่ค่อนข้างสูงโปร่งและมีสะโพกเล็ก เจ้าสาวตัวเล็กไม่เหมาะที่จะใส่ชุดแต่งงานแบบบอลกาวน์ที่กระโปรงใหญ่มากๆ เพราะชุดจะใหญ่กว่าตัวแล้วคุณจะถูกชุดคลุมหายไปเลย ข้อที่ควรนึกถึงอีกอย่างหนึ่งก็คือ ชุดเจ้าสาวแบบนี้จะค่อนข้างลำบากในการเคลื่อนไหว เพราะว่าคุณต้องลากกระโปรงใหญ่ๆ ไปด้วย ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับงานที่คุณคิดว่า ต้องเดินเยอะๆ หรือมีทางเดินแคบๆ เช่นงานแต่งงานโต๊ะจีน ที่คนชอบให้เจ้าสาวเดินขอบคุณแขกทุกโต๊ะ เป็นต้น

ชุดแต่งงานทรงเอ็มไพร์ (Empire)
บางคนเรียก่ชุดแต่งงานทรงแบบนี้ว่าทรงเอวสูง เพราะจะมีแนวเอวบริเวณใต้หน้าอก  ตัวกระโปรงจะไม่ใหญ่มาก มีทั้งแบบกระโปรงที่ค่อนข้างเข้ารูป กับกระโปรงที่ปล่อยลงมาตรงๆ
เลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง - แฟชั่นแต่งงาน - สไตล์การแต่งตัว - Wedding Dresses - ชุดเจ้าสาว - ชุดแต่งงาน - แบบชุดเจ้าสาว - งานแต่งงาน
หุ่นเจ้าสาวที่เหมาะกับชุดแต่งงานทรงนี้ ทรงนี้เหมาะสำหรับเจ้าสาวตัวเล็ก และเหมาะเป็นพิเศษกับเจ้าสาวที่หน้าอกเล็ก เพราะว่าเส้นเอวที่บริเวณหน้าอกช่วยทำเน้นบริเวณทรวงอก ยิ่งถ้ามีเครื่องประดับหรือรายละเอียดอยู่บริเวณแนวเส้นเอว ก็จะช่วยทำให้ดึงความสนใจไปที่บริเวณด้านบนของลำตัว ทำให้ดูหน้าอกใหญ่ขึ้น ชุดแต่งงานที่มีทรงแบบเอ็มไพร์นี้ก็ยังเหมาะสำหรับการซ่อนส่วนของร่างกายที่ไม่ชอบ เช่น ลำตัวยาว ขาสั้นหรือคนที่มีสะโพกใหญ่ ทั้งนี้เพราะชุดจะคลุมตั้งแต่เส้นใต้หน้าอกลงมา ส่วนล่างทั้งหมดจึงสามารถที่จะซ่อนเอาไว้ ดังนั้น ชุดเจ้าสาวแบบนี้จึงใช้สำหรับซ่อนรูปเจ้าสาวที่กำลังท้องอยู่ได้เป็นอย่างดีด้วย

ชุดแต่งงานทรงเชท(Sheath)
บางคนเรียกชุดเจ้าสาวทรงนี้ว่าทรงตรง หรือทรงฝักดาบ ทรงของชุดแต่งงานแบบนี้จะแคบๆ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ไม่ชอบชุดที่ใหญ่ๆ ชุดแบบเชทก็มีอีกหลายเวอร์ชั่น บางแบบก็จะเข้ารุปทั้งตัว บางแบบก็จะปล่อยลงมาตรงๆ จากไหล่จนถึงพื้น
เลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง - แฟชั่นแต่งงาน - สไตล์การแต่งตัว - Wedding Dresses - ชุดเจ้าสาว - ชุดแต่งงาน - แบบชุดเจ้าสาว - งานแต่งงาน
หุ่นเจ้าสาวที่เหมาะกับชุดแต่งงานทรงนี้ ชุดแต่งงานแบบนี้จะทำให้เจ้าสาวดูสูงขึ้น ดังนั้นจึงเหมาะเป็นพิเศษกับเจ้าสาวที่ผอมและตัวเล็ก แต่ชุดเจ้าสาวทรงนี้เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ผอมสูงเช่นกัน เจ้าสาวที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งเช่นเจ้าสาวแบบนาฬิกาทรายก็สามารถใส่ทรงเชทนี้ได้  แต่ถ้าคุณมีสะโพกใหญ่ เอวหนา หรือมีรูปร่างท้วมควรเลี่ยงชุดแบบนี้ เพราะชุดแต่งงานแบบเชทไม่สามารถที่จะซ่อนส่วนเหล่านี้ได้ 

ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมท (Mermaid) 
ชุดเมอร์เมทหรือชุดเจ้าสาวแบบนางเงือก ชุดเมอร์เมดแบบดั้งเดิมจะเป็นชุดที่รัดรูปบริเวณส่วนลำตัวจนถึงบริเวณหัวเข่าหรือประมาณปลายนิ้วของเจ้าสาว (เมื่อปล่อยแขนลู่ลงข้างลำตัว) หลังจากนั้นชุดจะบานออก แต่ปัจจุบันได้มีการปรับแพทเทิร์นชุด ให้เหมาะกับหุ่นเจ้าสาวเอเชียที่มีช่วงขาสั้นแต่ยังต้องการใส่ทรงเมอร์เมท โดยแทนที่จะรัดรูปตั้งแต่สะโพกไปจนถึงหัวเข่า แต่ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมดในเมืองไทยส่วนใหญ่ จะรัดรูปจนถึงแค่ใต้สะโพกแล้วปล่อยให้หลวมลง เพื่อช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้น
เลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง - แฟชั่นแต่งงาน - สไตล์การแต่งตัว - Wedding Dresses - ชุดเจ้าสาว - ชุดแต่งงาน - แบบชุดเจ้าสาว - งานแต่งงาน
หุ่นเจ้าสาวที่เหมาะกับชุดแต่งงานทรงนี้ ชุดทรงนี้เป็นชุดที่โชว์ความเซ็กซี่ของเจ้าสาว เพราะจะเน้นทรวดทรงทุกส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้ที่สวมใส่ เป็นชุดที่เหมาะกับเจ้าสาวหุ่นดีแบบนาฬิกาทรายหรือเจ้าสาวที่สูงโปร่งช่วงขายาว (เหมือนหุ่นสาวฝรั่ง) ไม่เหมาะกับเจ้าสาวที่ตัวเล็กมากๆ เจ้าสาวทรงตรง หรือเจ้าสาวท้วมที่มีสะโพกและท่อนขาใหญ่ขนานกัน และ ข้อควรคิดอีกประการหนึ่งที่หลายๆ คนไม่เคยคิดถึงก็คือเรื่องรอยขอบชุดชั้นใน ที่อาจจะเห็นได้ชัดสำหรับชุดแบบนางเงือกที่รัดรูปมากๆ เพราะฉะนั้นคุณควรจะคิดถึงจุดนี้ด้วยด้วยการสวมใส่ชุดชั้นในที่เหมาะสม