โดยหลักคร่าว ๆ ในการเลือกดูแหวนเพชรคุณภาพนั้น ประกอบด้วย หลัก 4 c ดังนี้ คือ...

  1. Color สี

หรือ ภาษาชาวบ้านที่เรียกว่า น้ำขาวเท่าไหร่ โดยตามธรรมชาติของเพชรนั้นจะมีทุกสี ตั้งแต่ขาวไร้สี น้ำตาล เหลือง เขียว ฟ้า ชมพู และแดง แต่สีเพชรยอดนิยม คือ เพชรไร้สี (color) หรือเกือบที่จะไร้สี (Near colorlesss) เรียกได้ว่ายิ่งไร้สียิ่งแพงก็ว่าได้ค่ะ หรือสามารถเทียบได้กับน้ำแข็งที่อยู่ในแก้ว ถ้าหากใสได้ดังที่กล่าวมานี้ ก็ถือว่าเพชรนั้นมีคุณภาพ 100% หรือที่ภาษาสากลเรียกว่า D Color ทั้งนี้ น้ำหนักโดยทั่วไปของเพชรที่น้ำขาว คือ 97-96-95-94 หรือ G,H,I,J ซึ่งเพชรระดับนี้กำลังอยู่ในสิ่งยอดฮิต ทั้งในแง่ของราคา หาง่าย ในขณะที่ระดับ 100,99,98 หรือ D,E,F นั่นเองจ้า

          Tips ในการเลือกดูเพชร

คว่ำหน้าเพชรลงบนกระดาษขาว เพื่อให้ประสิทธิภาพความชัดเจนยิ่งขึ้น ควรใช้สองเม็ดในการเทียบ เอียงกระดาษทำระดับสายตา ประมาณ 45 องศา ภายใต้ไฟแสงสีขาว

     2. Clarity ความสะอาด

หรือ เอกลักษณ์เฉพาะตัว แค่เพียงจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในเพชรก็มีข้อดี เพราะทำให้เราสามารถจดจำเพชรของเราได้ และไม่ต้องกังวลว่าไปฝากไว้ที่ไหนแล้วถูกสับเปลี่ยนหรือขโมยไปได้ สาเหตุที่เพชรมีจุดเล็กที่ไม่เหมือนกัน เพราะเพชรต้องอาศัยความกดดัน ความร้อน และสารประกอบอื่น ๆ จนกลายเป็นเพชร จึงหาที่สมบูรณ์แบบได้ ซึ่งคำศัพท์ที่ใช้บอก ความสะอาดของเพชร มีดังนี้

ระดับที่ 1,2

           - FL Flawless (ไร้ตำหนิ)
           - IF Internally Flawless (ปราศจากตำหนิภายใน)

           ระดับที่ 3,4

           - VVS1 Very Very Slightly Included1 (เห็นตำหนิได้ยากมาก ๆ)
           - VVS2 Very Very Slightly Included2 (เห็นตำหนิได้ยากมาก ๆ)

           ระดับที่ 5,6

           - VS1 Very Slightly Included1 (เห็นตำหนิได้ยากมาก)
           - VS2 Very Slightly Included2 (เห็นตำหนิได้ยากมาก)

           ระดับที่ 7,8

           - SI1-3 Slightly Included1-3 (เห็นตำหนิได้ยาก)

           ซึ่งศัพท์ดังกล่าวสามารถอ่านค่าได้ คือ ตัวเลขข้างท้าย บอกให้เราทราบว่า 1 คือ การมองเห็น ตำหนิได้ยากกว่า 2 คือราคาค่าตัว VVS1 แพงกว่า VVS2 และแพงกว่า VS1 และ VS2

      
     3. Cutting การเจียระไน

หมายถึง เพชรที่ได้รับการเจียระไนที่ดีที่สุด ก็คือเพชรที่สามารถส่องประกายแสงกลับคืนตาได้มากที่สุด โดยการนำเพชรมากกว่าหนึ่งเม็ดมาเปรียบเทียบกัน โดยเม็ดที่เจียระไนได้ดีที่สุดจะเปล่งประกายแสงสว่างได้ชัดเจนที่สุด และด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิงที่มีความละเอียดอ่อน การเลือกเพชรถือเป็นงานง่ายสำหรับผู้หญิงและเลือกได้ดีกว่าผู้ชาย โดยหลัก 2 ประการ ที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นในการดูเพชรด้วยตัวคุณเอง คือ ...

           ประการแรก ให้ยึดหลักของความสมมาตร (Symmetry) โดยการสมมติว่าเพชรที่มีเหลี่ยมการเจียระไนที่ดี เหลี่ยมมุมของแต่ละด้านจะสามารถวางทาบกันได้สนิท เท่ากันพอดีทุกด้าน

ประการที่สอง เป็นการดูเพชรจากด้านข้างค่ะ สัดส่วนเพชรที่มีการเจียระไนที่ดีนั้นจะดูจากสัดส่วนการเปรียบเทียบระหว่างส่วนบนเทียบกับส่วนล่าง โดยมีเอว คือ ส่วนที่กว้างที่สุดของเพชรเมื่อดูด้านข้าง ซึ่งถือเป็นจุดแบ่งอัตราส่วนได้ดีที่สุดของส่วนบนต่อส่วนล่างจะอยู่ในระหว่าง 1:2 ถึง 1:3

   4. Carat Weight น้ำหนัก

ขนาดที่พอเหมาะกับรูปนิ้วของผู้สวมใส่ สามารถสวมใส่ได้สบายกายและใจ ไม่เป็นเป้าสายตามากจนเกินไป เพราะจากขั้นตอนการเจียระไนเพชรจากก้อนดิบ ๆ มาเป็นเพชรที่สวยงามนั้น จะต้องเสียน้ำหนักตัวจากเดิมไปมากกว่าครึ่ง และเมื่อถึงขั้นตอนในการเลือกแหวนหมั้น แหวนแต่งงานสักวง สิ่งที่เราจะต้องทราบ คือ ราคาเพชรนั้นจะคิดเป็นราคาต่อกะรัตเสมอ ซึ่งเพชรที่มีน้ำหนักมากกว่ากันก็ไม่ได้มีราคาสูงเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักเสมอ แต่อยู่ที่สัดส่วนการเจียระไน ความเปล่งประกาย สี และความสะอาดมากกว่า ที่ทำให้เพชรมีราคาสูงขึ้น เพราะโดยมากราคาเพชรจะเป็นตามช่วงของน้ำหนักที่ลงท้ายด้วยเลข 0-0.99 กะรัต จะมีช่วงระดับราคาเมื่อเทียบกับเพชรที่หนักอยู่ระหว่าง 0.90-0.99 กะรัต จะมีช่วงระดับราคาที่แตกต่างกันมาก เมื่อเทียบกับเพชรที่หนักอยู่ระหว่าง 1.00-1.49 กะรัต

เรียกได้ว่ารับความรู้เกี่ยวกับการเลือกเพชรที่ดูดีมีคุณภาพไปเต็ม ๆ เลยค่ะ ต่อไปเราก็สบายใจได้แล้วว่า สามารถเลือกเพชรได้น้ำงามที่สุด คุณภาพดีที่สุด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนที่รักที่สุดได้เลยค่ะ


credit : kapook.com