คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ใหญ่หลายท่าน
จึงต้องหมั่นตรวจดูบ่อยๆ ว่ารองเท้าที่เด็กกำลังสวมใส่อยู่นั้น
ใช่ขนาดที่เหมาะจริงหรือเปล่า ดูว่าตรงไหนขาด หรือมีรอยปูดโปนออกมา
ที่แสดงว่าเท้าเริ่มโตขึ้น
จุดสังเกตอีกแห่งหนึ่งคือถ้านิ้วหัวแม่โป้งเชิดขึ้นล่ะก็
แสดงถึงสัญญาณต้องหารองเท้าคู่ใหม่ได้แล้ว
หรือ....พิจารณาดังนี้
- เวลาที่จะไปซื้อรองเท้าให้เด็กควรเป็นยามบ่ายหรือเย็นย่ำเพราะว่าเท้าเริ่มบวมได้ที่
- ไม่ควรซื้อรองเท้าราคาแพงมากนักเพราะเด็กโตไว
- ต้องวัดเท้าเด็กอยู่เสมอ และต้องให้ยืนในระหว่างวัดเท้าทั้งสองข้าง
เนื่องจากเท้าข้างหนึ่งมักจะใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่ง ดังนั้น
ควรซื้อรองเท้าที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และสวมสบายกับเท้าทั้งสองข้าง
โดยอาจจะให้มีที่ว่างระหว่างเท้ากับรองเท้าสักครึ่งนิ้ว
แต่ก็ไม่ควรซื้อรองเท้าที่ใหญ่กว่าเท้าจริงจนเกิน 1 เบอร์
เพราะจะทำให้พัฒนาการเท้าของเด็กผิดไป
- รองเท้าสำหรับเด็กควรจะต้องมีเชือกผูกรองเท้า เวลโคร หรืออะไรก็ตามที่สวมติดกับเท้า ไม่ให้ลื่นไถลหลุดออกไปโดยง่าย
- วัสดุของรองเท้าควรจะระบายอากาศได้ดี ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบหรือหนังก็ตาม
ทั้งสองอย่างไม่เพียงแต่ทนทาน แต่
ยังปกป้องเท้าของเด็กให้เย็นและแห้งสบายอีกด้วย
- ถึงแม้ว่ารองเท้ามีส้นจะสวยงามน่ารัก แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า
เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เด็กเดินยาก
แล้วยังจะส่งผลต่อการพัฒนาเท้าของเด็กไปในทางที่ไม่เหมาะสม
- พื้นรองเท้าก็เป็นจุดสำคัญที่ต้องดูทั้งรูปแบบ
และพื้นผิวที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กลื่นล้มโดยง่าย
ควรเลือกพื้นที่ทนทานและยืดหยุ่นในตัว
เมื่อดูตามหัวข้อที่จำเป็นข้างต้นหมดแล้ว จึงค่อยให้เด็กเลือกสีและลายที่ชอบต่อไป
พบกับ ลูกเล่นใหม่ๆในเครื่องประดับที่นักออกแบบคัดสรรได้อย่างลงตัว ตั้งแต่กระเป๋า Micro Chanel ไปจนถึงต่างหู Fendi Dice กันเลย ...
แบรนด์ดังกับเครื่องประดับต่างๆ จากรันเวย์ในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2021