นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ผู้บริหารอาวุโส   สายการตลาด สยามพารากอน กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการจัดงานแสดงนาฬิกาแห่งอนาคต ให้เป็นงานนาฬิกาที่นำเสนอนวัตกรรมอัจฉริยะ ยิ่งใหญ่เทียบเท่างานระดับโลก ในปีนี้นอกจากพบกับนาฬิการะดับมาสเตอร์พีซ, นาฬิกาคอมพลิเคชั่นกลไกสลับซับซ้อน, นาฬิกาลักชัวรี่สุดหรู, นาฬิกาแฟชั่นที่กำลังมาแรง และนาฬิกาเทคโนสปอร์ตเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ยังเตรียมรางวัลทรงคุณค่าหนึ่งเดียวและครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยรางวัลหมายเลขทะเบียนรถ 9999, 999, 99 และ 9
   
นาฬิกาหลากหลายแบรนด์นำเสนอภายใต้แนวคิด “เดอะ ยูนิเวิร์ส ออฟ ไทม์” จักรวาลแห่งนาฬิกา แบ่งพื้นที่จัดงานเป็นโซนและแบ่งนาฬิกาเป็นกลุ่มหลัก 5 แนวคิด กลุ่มระดับมาสเตอร์พีซ นำเสนอนาฬิกาที่เน้นการทำงานของเทคโนโลยีระดับสูงกับดีไซน์งดงาม อาทิ บริเกต์ รุ่น มารีน 5829 โครโนกราฟ ไฮ จิวเวลรี่ ตัวเรือนทองคำ 18 เค ตัวเรือนทองคำขาว และตัวเรือนสีชมพูประดับเพชร ไพลิน หรือทับทิม คอลเลกชั่นมี 4 เรือน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท มีเพียงหนึ่งเซตในประเทศไทย, เพียเจต์ รุ่น โปโล ทอลบิลเลียน ลีเลทีฟ อิน ทริบิวท์ ออฟ เดอะ ซิตี้ ออฟ ปารีส ตัวเรือนและหน้าปัดทำจากทองคำขาว 18 เค สลัก   คำว่า “Paris” มูลค่า 23 ล้านบาท ผลิต 3 เรือนในโลก มีเพียงเรือนเดียวในประเทศไทย
          
กลุ่มนาฬิกาคอมพลิเคชั่นกลไกสลับซับซ้อนแสดงถึงพัฒนาการที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อาทิ วาชิลอน คอนสแตนติน รุ่น มาเทล โทนีอู ทัวรบิลอน ฮูที โจอิลเลไร ตัวเรือนแพลทินัม ประดับเพชรรอบขอบตัวเรือน กระจกหน้าปัดคริส ตัลแซฟไฟร์พร้อมเพชรหน้าปัด 211 เม็ด และเพชรเหลี่ยม 9 เม็ด สายหนังจระเข้สีน้ำเงินประดับเพชรน้ำงามที่หัวเข็มขัด 29 เม็ด เป็นต้น ขณะที่กลุ่มนาฬิกาลักชัวรี่สุดหรู เผยความหรูหราสง่างามของเครื่องบอกเวลา อาทิ โชปาด รุ่น ฮูที โจอิลเลไร ลูมา วอทช์ ตัวเรือนทรงกลมผลิตจากทองคำขาว ประดับพื้นหน้าปัดด้วยเพชรกลม สลับด้วยเพชรเหลี่ยมจำนวน 797 เม็ด, คาร์ล เอฟ บุคเคอ   เรอร์ รุ่น พัตราวี อีโวเทค โดดเด่นด้วยกลไก    “คาลิเบอร์ CFB A1000” เป็นการปฏิวัติการทำงานใหม่ของตัวโรเตอร์ เป็นต้น