แต่การเปลี่ยนสีผมนั้นสีต่างๆ จะอยู่บนผมนานประมาณ 1 เดือนถึง 1.5 เดือน ถ้าใช้ยาย้อมผมชนิดถาวร (Permanent color) เมื่อโคนผมงอกออกมาใหม่จะปรากฏสีธรรมชาติ ของผมคนนั้นทันที เช่น หงอกก็จะปรากฏสีขาวตรงโคนผม ต้องย้อมซ้ำ ปัจจุบันมีครีมเปลี่ยนสีผม ออกมาใหม่รูปแบบเป็นแท่งยาวมีแปรงเล็กๆ ติดมาด้วย และผลิตออกมาหลายสี ประเภทนี้จะเปลี่ยนสีผมได้ชั่วคราว เมื่อสระผมสีจะลอกหลุดออกหมด สีชนิดนี้เป็นแบบกึ่งถาวร (Semipermanent color) ทำมาขายในรูป Hair mascara มีหลายสีแล้วแต่ชอบ นิยมทาเป็น Highlight ที่นิยมมาก คือ สีแดง สีน้ำเงิน เขียว ทาผมเป็นกระจุกใดกระจุกหนึ่ง จะทาตลอดความยาวของเส้นผม หรือตามแฟชั่น นิยมใช้มากในหมู่วัยรุ่น ดูเก๋และทันสมัยไปอีกแบบ

การเปลี่ยนสีผม ถือเป็นการแต่งเติมความงามให้แก่เส้นผม ทำได้ไม่ยาก หลายคนทำได้โดย ไม่ต้องจ้างช่าง หลักการทั่วไปคือ เส้นผมต้องสะอาด จึงต้องสระผมก่อนทุกครั้ง เพื่อเอาฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากเส้นผมให้หมด ห้ามเกาหนังศีรษะ เพราะอาจแสบเมื่อถูกน้ำยาย้อมผม หลังจากนั้นปล่อยให้เส้นผมแห้งสนิท แล้วจึงเข้าสู่ขบวนการเปลี่ยนสีผม

ถ้าจะเปลี่ยนสีผมให้อ่อนกว่าสีเดิม เช่น ผมน้ำตาลต้องการเปลี่ยนเป็นสีบลอนด์ จะต้องทำการกัดสีผมก่อน โดยใช้น้ำยาลอกสีผม แล้วจึงทาสีผมที่ต้องการลงไป แต่ถ้าต้องการย้อมผมหงอกเป็นสีดำให้ทาสีที่ต้องการลงไปได้เลย เมื่อใส่น้ำยาย้อมผมแล้ว ต้องหมักไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงสระออก เพื่อเอาสีที่ติดมากเกินไป หรือติดตามหนังศีรษะ และบริเวณใบหูออกไปด้วย ในกรณีที่น้ำยาย้อมผมเปรอะเปื้อนผิว ให้รีบเช็ดออกด้วยสำลีชุบน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จขบวนการเปลี่ยนสีผม

ถ้าเราเข้าไปในแผนกผลิตภัณฑ์ของการแต่งผม เราจะพบว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ในการเปลี่ยนสีผมมีหลายกลุ่ม ได้แก่

1. Hair restorer
เป็นครีมเปลี่ยนสีผมออกมาในรูปของครีมบำรุงเส้นผม นิยมมากในสมัยก่อน นับว่าเป็นครีมเปลี่ยนสีผมชนิดแรกๆ ที่ทำขายในตลาดก็ว่าได้ มีส่วนผสมของ lead acetate และ ollinodal sulfur หรือ sodium thiosuifate เมื่อทาลงบนเส้นผม lead acetate ถูกฟอกด้วยอากาศจะเปลี่ยนเป็น lead sulfide ซึ่งมีสีดำเกาะโดยรอบเส้นผม Lead ก็คือสารตะกั่ว ถ้าถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเกินปริมาณต้องการ จะเกิดสารตะกั่วเป็นพิษ มีอาการมึนชา อ่อนแรง สมองเสื่อม จึงเป็นการไม่ปลอดภัยถ้าใช้เป็นประจำทุกวัน ผู้ผลิตจึงเปลี่ยนมาใช้ bismuth citrate ซึ่งให้ความดำเช่นกัน แต่ไม่คงทนเท่าสารตะกั่ว

2. เปลี่ยนสีผมโดยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
มีพืชหลายชนิดที่ให้สีได้ และได้นำมาทำเป็นครีมเปลี่ยนสีผม เช่น พืชในตระกูล Lawsania alba มีสารพิเศษและสำคัญคือ 2-hydroxy-1, 4-napthoquinone สามารเปลี่ยนสีผม เป็นสีน้ำตาลแดงได้ โดยหมักครีมชนิดนี้ทั่วศีรษะประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้ผมสีดังกล่าว ซึ่งคิดว่าหลายๆ คนคงเคยใช้กันมาแล้ว เพราะผลิตมานานพอสมควร และเชื่อว่า ทำให้ผมนุ่มสลวยดีด้วย ยังไม่พบว่ามีใครแพ้หรือเกิดอันตรายแต่อย่างใดในปัจจุบัน

3. ครีมเปลี่ยนสีผมผสมสารเคมี
สมัยก่อนใช้ผสมในสเปรย์ แต่ในปัจจุบันนิยมออกมาในรูป Hair mascara ผลิตออกเป็นแท่งทรงกระบอกกลม คล้ายเนตรสำอาง มีแปรงจุ่มลงในครีมผสมสี เมื่อต้องการเปลี่ยนสีผมก็นำมาทาส่วนที่ต้องการ สีจะคงทนประมาณ 2-3 วัน เมื่อสระผมสีจะหลุดออกหมดทาซ้ำได้ตามต้องการ

4. Shampoo in haircolor
เป็นตัวยาเปลี่ยนสีผมที่ผสมลงในแชมพู เพื่อให้ใช้ได้ง่าย หมักประมาณ 15 นาที แล้วสระออกก็จะได้สีตามต้องการ พร้อมเป็นการทำความสะอาดผมไปพร้อมกัน ชนิดนี้จะผสม paraphenylinediamine และ resorcinol ติดสีนานประมาณ 1-1.5 เดือน แล้วต้องย้อมซ้ำอีก

5. ยาย้อมผมชนิดถาวร
นิยมแพร่หลายมาก เพราะสีติดคงทนอยู่ 1-1.5 เดือน ราคาไม่สูงมาก มีหลายยี่ห้อ จะมี 2 ขวดเป็นน้ำใสขวดหนึ่ง และเป็นน้ำข้นสีเข้มอีกขวดหนึ่ง เมื่อจะใช้ต้องนำมาผสมกันแล้ว จึงทาลงบนเส้นผม ส่วนผสมมี paraphenyline diamineresorcinol หรือ hydrogenperoxide