แต่ประเด็นคือการทำขาวยุคนี้...มันไม่ธรรมดา
เพราะใช้วิธี “ฉีดสารขาว” เข้าไปในร่างกาย !!
ทั้งนี้ เจ้า “สารขาว” ที่ว่านี้คือ “กลูตาไธโอน (Clutathione)”
ซึ่งสารนี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
หรือใช้ในรูปแบบกรดอะมิโนที่ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
แต่กลับมีการแอบอ้างนำมาใช้-นำมาแอบอ้างว่าทำให้ผิวขาว
แล้วในเมืองไทยตอนนี้ก็ฮิตกันมากทีเดียว
“สา
รกลูตาไธโอนนี้เพิ่งจะบูมและกล่าวถึงกันมากจากแรงโฆษณาในช่วง 1
ปีที่ผ่านมา เพราะคนผิวคล้ำฉีดแล้วผิวขาวขึ้น
แต่ต้องระวังเรื่องเม็ดสีที่ทำให้เปลี่ยน โดยเฉพาะกับลูกตา
ซึ่งถ้าใช้ไปนาน ๆ อาจมีผลต่อประสาทตา อาจทำให้ตามองไม่เห็นหรือเปล่า
ตรงนี้ยังไม่มีผลยืนยันที่แน่ชัด” ...แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลพญาไท 3 พญ.พรภุชงค์ เลาห์เกริกเกียรติ ระบุ
พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงการแพทย์ผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ต่อไปว่า...
กลูตาไธโอน หรือที่มีคนเรียกว่าสารขาวนี้
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูง
เมื่อเปรียบเทียบกับพวกวิตามินซี หรือวิตามินอี
โดยสารชนิดนี้เป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเม็ดสีในร่างกายมนุษย์
ทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนแปลง
ซึ่งปกติสารชนิดนี้ก็มีเจือปนอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อ พืช ผัก
และผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่มนุษย์เรากินเข้าไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์
โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้สารกลูตาไธโอนในปริมาณที่ไม่เกิน 200
มิลลิกรัมต่อครั้ง
แต่มีคลินิกหรือสถานเสริมความงามนำมาใช้ผสมกับวิตามินซีเพื่อฉีดให้ผิวขาว
ขึ้น
“การฉีดจะใช้สารกลูตาไธโอนในปริมาณความเข้มข้นสูง
ซึ่งอันตรายหรือไม่ก็ยังไม่แน่ชัด ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
ยังยืนยันชัดเจนไม่ได้ว่าปลอดภัย ยังยืนยันไม่ได้ว่านาน ๆ ไป 10 ปี 20 ปี
เกิดการสะสมในร่างกายมาก ๆ จะเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่-อย่างไร”
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังบอกอีกว่า...
การใช้สารกลูตาไธโอนในลักษณะที่ว่านี้ ในประเทศไทย
“ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.” หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
หากนำมาใช้ก็ถือว่า “ผิดกฎหมาย”
ซึ่งก็ไม่ทราบต้นตอ-ไม่ทราบว่าใครริเริ่มนำมาใช้
ยังไม่มีใครยืนยันชัดเจนเพราะเป็นสารตัวใหม่
พบกับ ลูกเล่นใหม่ๆในเครื่องประดับที่นักออกแบบคัดสรรได้อย่างลงตัว ตั้งแต่กระเป๋า Micro Chanel ไปจนถึงต่างหู Fendi Dice กันเลย ...
แบรนด์ดังกับเครื่องประดับต่างๆ จากรันเวย์ในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2021