บูติก Chanel ในอาคาร Ngee Ann City ริมถนนสายแฟชั่นอย่าง “ออชาร์ด” ประเทศสิงคโปร์  โดดเด่นด้วยสีสัญลักษณ์อย่างดำ-ขาว และลายผ้าทวี้ด คามิเลียดอกยักษ์วางประดับข้างหุ่นในกระจกหน้าร้าน ช่างบรรยายภาพของ Chanel  ได้โดยสมบูรณ์แบบ... และผู้ที่จะมาตอบคำถามของความลับนั้น คือ แมรี่-อาแดร์ มาแกร์ (Mary-Adair Macaire) Director of  Ready-to-wear, Costume Jewelry and Other Accessories ของ Chanel  















เสื้อผ้าของ Chanel เป็นที่รู้กันว่าเน้นความสะดวกสบายยามใส่ และให้อิสระยามเคลื่อนไหว แมรี่-อาแดร์ มาแกร์ เล่าให้ฟังว่า ห้องเสื้อชาเนลมีความผูกพันกับผู้หญิงมาเนิ่นนาน กาเบรียล บอนเนอร์ ชาเนล (Gabrielle Bonheur Chanel) หรือที่รู้จักในนามว่า Coco Chanel  ผู้ก่อตั้งด้วยการริเริ่มใช้วัตุดิบอย่างผ้าเจอร์ซี่ที่รู้กันว่าใช้สำหรับตัดเย็บชุดชั้นในผู้ชายและชุดว่ายน้ำ เพราะสวมใส่ง่ายและสบายด้วยเนื้อผ้าที่เบาและอ่อนนุ่ม... แฟนตัวจริงของชาเนลย่อมรู้ว่า เอกลักษณ์ของชาเนลจะเน้นใส่เพียงรายละเอียดเท่าที่จำเป็น - - กระดุมเม็ดรูปดอกคามิเลีย ริบบิ้นจากไหมซาติน - - ชาเนลตระหนักว่า เสื้อผ้าต้องทำให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกอึดอัด แจ๊กเก็ตจากชาเนลจึงมีรูปทรงแบบ boxy ประหนึ่งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความพิเศษอีกอย่างของสไตล์แบบชาเนล คือ ความแปลกใหม่ในดีไซน์ ตั้งแต่การเลือกใช้สีดำในลิตเติ้ล แบล็ค เดรส ที่ไม่เพียงเปลี่ยนความคิดของคนที่มองว่าสีดำคือสีของการไว้ทุกข์  แต่ยังสร้างกระแสนิยมของการมีเครื่องแต่งกายสีดำเพียงหนึ่งชิ้นที่สามารถใส่ได้หลายโอกาส ไปจนถึงเรื่องแรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายสำหรับชายหนุ่ม พัฒนาเป็นกางเกงสำหรับผู้หญิง  และเบลเซอร์ ที่ได้แรงบันดาลใจเครื่องแต่งกายของนักกีฬา ดีไซน์ที่สะท้อนความกล้าและอิสรภาพที่ไม่เหมือนใคร รวมทั้งสเปนเซอร์ ในลุคแบบมาดแมน ให้ความรู้สึกของการผสมผสานระหว่างคาร์ดิแกนและเบลเซอร์ ที่ความยาว สั้นเหมือนคาร์ดิแกน แต่พอดีตัวเหมือนเบลเซอร์



















ที่จะลืมไม่ได้เมื่อพูดถึงห้องเสื้อ Chanel คือ ผ้าทวี้ด (tweed) ที่ขึ้นชื่อด้านความทนทานและกันน้ำ เป็นเท็กซ์เจอร์ของเนื้อผ้าที่เรียกว่าเป็นคู่บุญของชาเนล และแจ๊กเก็ตผ้าทวี้ดของชาเนลก็จัดเป็นสินค้าชิ้นคลาสสิกของแบรนด์ ด้วยน้ำหนักที่เบาจากการผสมระหว่างขนสัตว์ ไหมสังเคราะห์และเส้นใยสังเคราะห์ ระบายอากาศได้ดีจึงสวมใส่สบาย ซับในที่ทำจากผ้าไหมลายนิ่งทอพิเศษ พิมพ์ลายชาเนล พร้อมซ่อนสายโซ่เล็กไว้ข้างในปลายเสื้อ ทำให้เสื้อทิ้งตัวในแนวตั้งอย่างสวยงาม ไม่กระดกยามเคลื่อนไหว วิธีนี้ไม่มีห้องเสื้อไหนใช้นอกจาก Chanel       ในความเรียบง่ายของแจ๊กเก็ตคือ ความพิถีพิถันในรายละเอียดของชาเนล คอสตูม จิวเวลรี่ อย่างอัญมณีทั้งของจริงและเทียม คริสตัล และสร้อยมุก เป็นตัวเลือกที่นำมาใช้ตกแต่ง “อย่างพอเหมาะ” เพิ่มเสน่ห์ให้ความเรียบง่าย ความสบายยามสวมใส่คือ ความคิดอันละเมียดละไมที่จะสร้างเสื้อผ้าสักชิ้นเพื่อความรู้สึกสบายและสามารถสวมใส่ได้จริง อย่างดีไซน์แบบ Paneling ที่นำเอาชิ้นผ้าถึง 18 แผ่นมาเย็บต่อกันเป็นแจ๊กเก็ต เพื่อให้เข้ารูปเมื่อสวมใส่ และรู้สึกสบาย อีกทั้งทรงของเสื้อผ้าจะไม่เสียรูปไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร 




อย่างที่ โคโค่ ชาเนล กล่าวไว้ว่า “A woman can be over-dressed, never over-elegant.” (ผู้หญิงจะแต่งตัวมากอย่างไรก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดูสง่างามมากตามไปด้วย) เพราะบางครั้ง ความหรูหรา งามสง่า ไม่ได้ต้องการอะไรที่มากมายหรือดูอู้ฟู่ ขอเพียงสักชิ้นที่ดีไซน์เรียบแต่หรูด้วยคัตติ้งที่เนี้ยบ ประณีตในรายละเอียดที่สำคัญสวมใส่สบาย... ชิ้นนั้นย่อมอยู่ในใจตลอดกาล